ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า การที่ RBA ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.นั้น เป็นเพราะนโยบายการเงินของ RBA ยังคงอยู่ในลักษณะที่ผ่อนคลายมาก และ RBA จำเป็นต้องปรับนโยบายกลับสู่ระดับปกติเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในขณะนี้
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการ RBA ได้หารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% หรือ 0.50% และท้ายที่สุดกรรมการได้เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 0.85% เนื่องจากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับที่กรรมการทุกคนคาดการณ์ไว้
"กรรมการ RBA มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ว่าจะ 0.25% หรือ 0.50% ก็ยังทำให้ระดับของอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ต่ำกว่า 1% ซึ่งหมายความว่า RBA ยังคงมีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก นอกจากนี้ กรรมการ RBA ยังเห็นพ้องว่า ขั้นตอนต่อไปคือการปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้" รายงานการประชุมระบุ
ทางด้านนายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA กล่าวว่า แรงกดดันด้านราคายังคงเกิดขึ้นทั้งในต่างประเทศและภายในประเทศ โดยอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 7% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6% โดยอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 7% ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปีและสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวของ RBA ที่ระดับ 2-3%
"ในขณะที่เราเดินหน้าฉุดอัตราเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเราที่ระดับ 2-3% ชาวออสเตรเลียควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ผมมองว่าอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้อยู่ในระดับที่ต่ำมากสำหรับเศรษฐกิจที่มีอัตราว่างงานต่ำและอัตราเงินเฟ้อสูง" นายโลว์กล่าว