ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนเม.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า การทรุดตัวของเงินเยนเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่กรรมการ BOJ อภิปรายกันในการประชุมวันดังกล่าว โดยกรรมการส่วนหนึ่งแสดงความกังวลว่า เงินเยนที่ผันผวนมากเกินไปจะส่งผลให้ภาคเอกชนประสบความยากลำบากในการวางแผนธุรกิจ
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการบางคนของ BOJ กล่าวว่า BOJ จำเป็นต้องสื่อสารให้ตลาดทราบว่า นโยบายของ BOJ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ ไม่ใช่เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ BOJ จำเป็นต้องจับตาความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินเยน ไม่เพียงแค่จับตาผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเท่านั้น
"กรรมการบางคนกล่าวว่า ตลาดปริวรรตเงินตรามีความผันผวนมากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มตลาด และทำให้ภาคเอกชนประสบความยากลำบากในการวางแผนธุรกิจ" รายงานการประชุม BOJ ระบุ
นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า กรรมการหลายคนของ BOJ ได้ย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาวัตถุดิบซึ่งเป็นผลมาจากสงครามในยูเครนนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้า
ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ในการประชุมวันดังกล่าว BOJ ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2565 ลงเหลือ 2.9% จากระดับ 3.8% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน สู่ระดับ 1.9% จากระดับ 1.1%