นายเฟลิเป เมดาลลา ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) เปิดเผยในวันนี้ว่า BSP อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1% ในปีนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของฟิลิปปินส์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น
"เราพิจารณาแล้วเห็นว่า BSP ควรจะปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เริ่มฟื้นตัว และต่อให้ตัวเลขเงินเฟ้อไม่ได้สูงกว่าเป้าหมายของเรา เราก็ควรทำเช่นนั้น" นายเมดาลลากล่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี และกระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และอาจจะใช้มาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นในการสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี CPI ของฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ในกรอบ 2% - 4% โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น มาจากการพุ่งขึ้นของต้นทุนการขนส่งและสาธารณูปโภค รวมทั้งราคาอาหารที่สูงขึ้นด้วย
ส่วนดัชนี CPI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.4%
ทั้งนี้ BSP ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมแล้ว 0.50% ในปีนี้ และหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1% ก็จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของฟิลิปปินส์ทะยานขึ้นแตะที่ระดับ 3.5% สำหรับการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของ BSP จะมีขึ้นในวันที่ 18 ส.ค.นี้
ส่วนการประชุมในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่ผ่านมา BSP ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าวครั้งละ 0.25%