นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า PBOC จะยกระดับการใช้นโยบายทางการเงินที่รอบคอบเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
นายอี้กล่าวในการประชุมผู้ว่าธนาคารกลางและรัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G20 ว่า เศรษฐกิจกำลังเผชิญแรงกดดันช่วงขาลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัจจัยภายนอก แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศจะค่อนข้างต่ำก็ตาม
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่จีนเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อ 2 ปีก่อน และเผชิญความเสี่ยงครั้งใหม่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เป็นการยากกว่าเดิมที่รัฐบาลจีนจะทำให้เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 5.5%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า PBOC ดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างระมัดระวังในปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้ช่องว่างของนโยบายทางการเงินระหว่างสหรัฐกับจีนขยายขึ้นและผลักดันให้เงินไหลออกนอกประเทศ โดยจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามนโยบายระยะเวลาหนึ่งปีไว้ที่ 2.85% ในวันศุกร์ (15 ก.ค.) และนำเงินที่ได้จากพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนแล้วกว่า 1 แสนล้านหยวน (1.48 หมื่นล้านดอลลาร์) ไปปล่อยกู้ต่อ ขณะที่เงินสดในระบบธนาคารของจีนมีปริมาณเพียงพอ