นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมวันนี้ (8 ก.ย.) เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจนเกินควบคุม โดยคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ ECB กำลังพยายามควบคุมตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 50 ปีของสหภาพยุโรป (EU) เพราะปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเงินออมของภาคครัวเรือนและบั่นทอนผลผลิตธุรกิจ
ขณะนี้ ECB มีอยู่สองตัวเลือกระหว่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% และ 0.75% โดยตัวเลขหลังจะเป็นระดับสูงสุดที่ ECB เคยปรับดอกเบี้ยมา แต่ไม่ว่าจะเลือกทางใดก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินนโยบายของ ECB ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ขณะนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% หลังเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายสายอนุรักษ์นิยมหลายรายออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงรุก เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
"เราคิดว่าเป็นอะไรที่สูสีมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วตัวเลขที่สูงกว่ามีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะการประชุมเดือนก.ย.ถือเป็นโอกาสดีที่สุดในการส่งสัญญาณการตัดสินใจที่ชัดเจนออกไป" นายเจนส์ ไอเซนชมิดต์ นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์กล่าว
"ไม่ว่าจะ 0.50% หรือ 0.75% ...เราคิดว่าวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ECB จะสิ้นสุดที่ 2% ในเดือนมี.ค.ปีหน้า"
สำหรับการประชุมครั้งหลังสุดของ ECB เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีและเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ