ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ในการประชุมวันนี้ (22 ก.ย.) เพื่อสกัดเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินรูเปียห์
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วันในอัตรา 0.50% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินโดนีเซียนั้น สวนทางคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากทั้งหมด 37 รายในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางอินโดนีเซียจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% โดยมีนักเศรษฐศาสตร์เพียง 7 คนที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องค่าเงินรูเปียห์ หลังสกุลเงินต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงกดดันรอบล่าสุดจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ต่อไป
แม้ค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียค่อนข้างยืดหยุ่นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน แต่การอ่อนค่าลงของเงินรูเปียห์ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อจากการนำเข้าสินค้า ในช่วงที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่แล้วจากการชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงบางส่วนของภาครัฐ