ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจัดการประชุมฉุกเฉินอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ และประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่เพื่อสกัดการทรุดตัวของปอนด์
ทั้งนี้ BoE มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 2.25% ในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) มีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกรรมการ 5 รายลงมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่ 3 รายลงมติให้ปรับขึ้น 0.75% และ 1 รายให้ปรับขึ้น 0.25%
BoE มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 3 พ.ย. และอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจช้าเกินไปในการแก้ไขปัญหาการดิ่งลงของปอนด์ในขณะนี้
"ธนาคารกลางอังกฤษกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ซึ่งหากไม่ดำเนินการอะไรก็มีความเสี่ยงที่ปอนด์จะยิ่งทรุดหนักลง แต่ถ้าหากธนาคารกลางจัดการประชุมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อปกป้องค่าเงินก็จะทำให้ตลาดมองว่าอังกฤษซึ่งเป็นตลาดที่พัฒนาแล้วกำลังทำตัวเหมือนกับตลาดที่กำลังพัฒนา ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาดำเนินการหรือไม่ดำเนินการต่างก็มีผลเสียทั้งนั้น" นายไมค์ ริดเดลล์ ผู้จัดการพอร์ทของบริษัทอลิอันซ์ โกลบอล อินเวสเตอร์ กล่าว
ซิตี้กรุ๊ปเตือนว่า อังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นในสกุลเงินปอนด์ และปอนด์อาจดิ่งลงแตะระดับ 1:1 เทียบดอลลาร์
"เราคิดว่าอังกฤษจะประสบความยากลำบากในการหาเงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่" ซิตี้กรุ๊ป
ด้านดอยซ์แบงก์ออกรายงานเรียกร้องให้ BoE จัดการประชุมฉุกเฉินในสัปดาห์นี้ และทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่
ดอยซ์แบงก์ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้จะสามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นในตลาดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ BoE ในการควบคุมเงินเฟ้อ
ปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการคลังของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากรัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.0382 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
รัฐบาลประเมินว่ามาตรการปรับลดภาษีจะมีวงเงินราว 4.5 หมื่นล้านปอนด์ในปี 2569-70 ส่วนมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานมีวงเงินมากกว่า 1 แสนล้านปอนด์
หลายฝ่ายแสดงความกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล หลังการเปิดเผยมาตรการดังกล่าว
อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันว่าอังกฤษยังคงมีตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีต่ำเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม G7 และรัฐบาลมีแผนที่จะเปิดเผยแผนการปรับลดหนี้ในระยะต่อไป