นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก และควบตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินเฟด (FOMC) ระบุเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.) ว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงจนเกินไป โดยแทบไม่มีสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง ซึ่งหมายความว่า เฟดต้องเดินหน้าภารกิจคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ในภายใต้การควบคุม
"เห็นได้ชัดว่าเงินเฟ้อสูงเกินไปมาก และเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงแบบต่อเนื่องนั้นขัดขวางไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตเต็มศักยภาพ" นายวิลเลียมส์ระบุ พร้อมเสริมว่า "นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้นได้เริ่มชะลออุปสงค์และลดแรงกดดันเงินเฟ้อแล้ว แต่ภารกิจของเรายังไม่เสร็จสิ้น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายวิลเลียมส์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต แต่ชี้ว่า เฟดจะเดินหน้าภารกิจชะลออุปสงค์ต่อไป เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด โดยเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.2% ในเดือนส.ค.เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ นายวิลเลียมส์ระบุด้วยว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ภารกิจต่อสู้เงินเฟ้อของเฟดนั้น จะทำให้เศรษฐกิจชะลอการเติบโต และอัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยกิจกรรมเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวแบบเกือบทรงตัวในปีนี้ ขณะที่จะเติบโตเพียงเล็กน้อยในปีหน้า และอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นสู่ 4.5% ภายในสิ้นปี 2566 เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่ระดับ 3.7%