คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) ว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงช่วงต้นปีหน้าเพื่อกดเงินเฟ้อให้ต่ำลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านายวอลเลอร์แทบไม่มีท่าทีสนับสนุนให้เฟดผ่อนคลายการคุมเข้มนโยบายการเงิน
นายวอลเลอร์กล่าวว่า "อัตราเงินเฟ้อยังห่างไกลจากเป้าหมายของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) และไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่เงินเฟ้อที่จะสนับสนุนให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายขั้นสุดท้ายให้ต่ำกว่าที่เฟดคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้รวดเร็วมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% จำนวน 3 ครั้งติดกันจนถึงเดือนก.ย. ทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 3-3.25% นอกจากนี้ ในการประชุมนโยบการเงินเดือนก.ย. เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-1.25% ในปีนี้
ทั้งนี้ แม้สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและข้อมูลเงินเฟ้ออีก 2 รายการก่อนที่การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนพ.ย. แต่นายวอลเลอร์มองว่ามีข้อมูลน้อยเกินไปที่จะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ว่าตลาดแรงงานอยู่ในตึงตัวและเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินไป พร้อมเสริมว่า "และผมคาดว่าผู้ว่าการเฟดคนอื่น ๆ จะคิดแบบเดียวกับผม"
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.