นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงหนุนการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 77.10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 22.90% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังคงแสดงจุดยืนชัดเจนว่า เฟดจะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากในความพยายามที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
"ผมยังไม่พร้อมที่จะพูดว่าเราจะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ชะลอตัวลงแล้ว ซึ่งขณะนี้แทบไม่มีหลักฐานแสดงว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว" นายแคชแครีกล่าว
ขณะเดียวกัน นายแคชแครีระบุว่า เขาเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่การที่เฟดจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพียงเพื่อจะช่วยเหลือตลาดนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยง่าย
ด้านนางลิซา คุก หนึ่งในผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า "ดิฉันจำเป็นต้องเห็นว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงอย่างแท้จริง ก่อนที่จะสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
ส่วนนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้แสดงความมุ่งมั่นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าภารกิจของเฟดจะประสบความสำเร็จ
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้, รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด