นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนธ.ค. หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 56.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 51.5% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันนี้
นางควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จาก LPL Financial กล่าวว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ได้สนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
"รายงานการจ้างงานโดยรวมถือเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% เป็นการเน้นย้ำว่าตัวเลขจ้างงานกำลังปรับตัวลง แต่ไม่ได้ทรุดตัวรุนแรง" นางครอสบีกล่าว
นอกจากนี้ นางครอสบีระบุว่า รายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่ได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย
ด้านนายคีธ เลอร์เนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของทรัสท์ แอดไวเซอรี เซอร์วิสเซส กล่าวเช่นกันว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นทั้งการจ้างงานและอัตราว่างงาน ได้ทำให้นักลงทุนมองในเชิงบวก เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวในตลาดแรงงานโดยที่เศรษฐกิจไม่ได้ทรุดตัวลง
"หากรายงานในวันนี้บ่งชี้ว่าจ้างงานพุ่งขึ้น ขณะที่อัตราว่างงานลดลง ก็จะสร้างความวิตกต่อตลาด ในขณะที่รายงานซึ่งมีทั้งตัวเลขดีและไม่ดีผสมกัน ถือเป็นรายงานที่ดีสำหรับตลาด เนื่องจากเป็นการแสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้ทรุดตัวลง" นายเลอร์เนอร์กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง แต่ก็ชะลอตัวจากระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ย.