ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ (8 พ.ย.) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายได้หารือกันถึงสิ่งจำเป็นที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นระยะเวลายาวนาน และผลกระทบจากการยกเลิกการใช้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำพิเศษ
สมาชิกบางรายของคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินจากทั้งหมด 9 คนมองเห็นสัญญาณว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนโดยต้นทุนสินค้าในช่วงนี้เริ่มขยายวงออกไปมากยิ่งขึ้น โดยสมาชิกรายหนึ่งเตือนว่า "ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อจะพุ่งทะลุเป้าหมายครั้งใหญ่ได้"
"การประเมินแบบต่อเนื่องว่า การยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษในอนาคตนั้น จะส่งผลกระทบต่อตลาดเช่นไร และนักลงทุนเตรียมตัวรับมือกับการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ดีหรือไม่ ถือเป็นเรื่องสำคัญ" สมาชิกคณะกรรมการกำกับนโยบายรายหนึ่งกล่าว
สมาชิกคณะกรรมการกำกับนโยบายอีกรายหนึ่งระบุกล่าวว่า แม้ว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในทันที แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องให้ความใส่ใจต่อผลข้างเคียงจากการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเป็นระยะเวลายาวนาน
ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 27 - 28 ต.ค.ที่ผ่านมา BOJ ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ และคงแนวนโยบายเชิงผ่อนคลายไว้เช่นเดิม ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางทั่วโลกที่เดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น