นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง และเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงระดับ 5.0-5.25% เพื่อขจัดอุปสงค์ส่วนเกินออกจากเศรษฐกิจ
นายบอสติกระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยเหนือระดับ 5.0% และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลานานเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
นายบอสติกยืนยันก่อนหน้านี้ว่า เขามีความมุ่งมั่นที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง และจะยังไม่ปรับลดลง จนกว่าเงินเฟ้อจะไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2%
ด้านนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ระบุเช่นกันว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าระดับ 5.0% โดยแตะระดับสูงสุดที่ 5.0-5.25% และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไประยะหนึ่ง เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
นางดาลียังกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% หรือ 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.
"สิ่งที่ดิฉันสามารถพูดได้ในขณะนี้ก็คือ เฟดควรพยายามฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และในขณะเดียวกัน เฟดก็ต้องทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อจะไม่ฝังรากลึกอยู่ในระบบเศรษฐกิจเป็นเวลานาน" นางดาลีกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล