นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กระบุเมื่อวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) ว่า เฟดยังต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่มองเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้ออาจเริ่มชะลอตัวลงจากระดับรุนแรง
"เมื่อพิจารณาตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงและสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอุปทานและอุปสงค์ยังไม่สมดุลกันอย่างต่อเนื่อง เฟดจึงยังจำเป็นต้องดำเนินการด้านนโยบายการเงินต่อไป เพื่อฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน" นายวิลเลียมส์กล่าว
"การที่จะฉุดเงินเฟ้อลงได้นั้นอาจจำเป็นต้องปล่อยให้เศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าศักยภาพสักระยะและภาวะตลาดแรงงานอาจชะลอตัวลงบางส่วน" นายวิลเลียมส์เตือน พร้อมเสริมว่า "การพลิกฟื้นเสถียรภาพเงินเฟ้อถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพและการสร้างเสถียรภาพเงินเฟ้อในระยะยาว ดังนั้นเฟดจำเป็นต้องเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปจนกระทั่งภารกิจลุล่วง"
นอกจากนี้ นายวิลเลียมส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเติบโตชะลอตัวลงสู่ 1% ในปีนี้ พร้อมระบุว่า "การจ้างงานที่แข็งแกร่ง อัตราว่างงานในระดับต่ำ และค่าจ้างที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งนั้นสะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงตึงตัวอย่างมาก" โดยคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะปรับขึ้นสู่ 4.5% เมื่อเวลาผ่านไป เทียบกับปัจจุบันที่ 3.5%