นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมวันนี้ (25 ม.ค.) โดยมีเป้าหมายที่จะลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ในขณะที่เศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้นเนื่องจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นักวิเคราะห์ 19 ใน 20 คนที่เข้าร่วมการสำรวจของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ 1 รายคาดว่า ธปท.จะคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท โดยขณะนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้น 17% แล้วนับตั้งแต่ที่ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปีในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดว่า กนง.มีแนวโน้มจะยังคงใช้แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปและรอบคอบ (gradual and measured rate moves) ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจีน หลังจากมีการเปิดประเทศ โดยคาดว่ากนง.จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากธนาคารกลางของประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มส่งสัญญาณยุติวงจรการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าวว่า "ธปท.มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้กลับสู่ระดับปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะยังคงสื่อสารกับตลาดอย่างชัดเจน ผมคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกจะไม่เกิดขึ้น เมื่อพิจารณาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งการส่งออกที่หดตัวลงในช่วงที่ผ่านมา และการแข็งค่าของเงินบาท"