นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) เมื่อคืนนี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง (Disinflationary) ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะนำไปสู่การชะลอตัวของเงินเฟ้อนั้น เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว โดยเฉพาะในภาคสินค้า (Goods Sector) อย่างไรก็ดี การชะลอตัวอย่างยั่งยืนของเงินเฟ้อนั้นยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน และในขณะนี้เราเพิ่งจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น"
"ผมคาดว่า ปี 2566 จะเป็นปีที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนม.ค.ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และผมมองว่าเฟดจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่คุมเข้ม (Restrictive Level) เอาไว้อีกระยะหนึ่ง"
"หากตัวเลขจ้างงานยังคงออกมาแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ เราก็มองว่าจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ส่วนกระบวนการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนนั้น ผมมองว่าอาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และผมมองว่ากระบวนการดังกล่าวอาจจะไม่ราบรื่นนัก" นายพาวเวลกล่าวในงานเสวนา
ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การแสดงความเห็นล่าสุดของนายพาวเวลไม่แตกต่างจากถ้อยแถลงในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยในเวลานั้น นายพาวเวลกล่าวว่า เงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง และเขามองว่าภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงในสหรัฐเริ่มปรากฏให้เห็นแล้วในขณะนี้
"นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมจะพูดว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงในสหรัฐได้เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว โดยนับจนถึงขณะนี้มาตรวัดเงินเฟ้อในด้านต่าง ๆ อยู่ในระดับที่ดีมาก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ โดยเราเพิ่งจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง แต่ภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ" นายพาวเวลกล่าว