นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นในที่ประชุมพิจารณาเรื่องการยืนยันตำแหน่งของเขาในวันนี้ (24 ก.พ.)
ทั้งนี้ นายอุเอดะระบุว่า "BOJ ต้องดำเนินนโยบายการเงินด้วยการจับตาทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ระบาด แต่ความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และตลาดนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก ปัจจุบันเงินเฟ้อผู้บริโภคอยู่ที่ 4% ซึ่งสูงกว่าที่ BOJ ตั้งเป้าเอาไว้ แต่ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สูงขึ้นนี้ส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากราคานำเข้าสินค้าที่สูงขึ้น ไม่ได้เกิดจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด"
"เงินเฟ้อผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลดลงต่ำกว่าระดับ 2% ในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณถัดไป โดยต้องใช้เวลาสักระยะกว่าที่นโยบายการเงินจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยถือเป็นเรื่องปกติที่จะดำเนินการป้องกันล่วงหน้าต่อเงินเฟ้อที่ถูกขับเคลื่อนโดยอุปสงค์ แต่ไม่ตอบสนองแบบทันทีทันใดต่อเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนจากอุปทาน มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่า BOJ เข้าไปชะลออุปสงค์ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ลงและฉุดเงินเฟ้อลงด้วยการคุมเข้มนโยบายการเงิน" นายอุเอดะกล่าว
"ทิศทางเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อให้เงินเฟ้อบรรลุเป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืนและมั่นคง"
"นโยบายการเงินในปัจจุบันของ BOJ ช่วยให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดได้ในที่สุด แม้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย แต่นโยบายการเงินในปัจจุบันของ BOJ นั้นถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็นและเหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2%" นายอุเอดะกล่าว