นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันอังคารที่ 7 มี.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 8 มี.ค.ในเวลาเดียวกัน
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มี.ค.
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนก.ย. รวมทั้งเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด เป็นการตอกย้ำว่าเงินเฟ้อยังไม่ผ่านจุดสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาดเช่นกัน
ด้านนายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เขาเปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.
นอกจากนี้ นายแคชแครีกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจำเป็นต้องสูงกว่าระดับ 5.4% ที่เขาคาดการณ์ไว้ในเดือนธ.ค.2565
"ผมคิดว่ากรรมการเฟดท่านอื่นเห็นด้วยกับผมที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินที่น้อยเกินไปมีความเสี่ยงมากกว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินที่มากเกินไป และเนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังไม่ได้ชะลอตัวลงตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ผมจึงจำเป็นต้องปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต" นายแคชแครีกล่าวว่า
ถ้อยแถลงของนายแคชแครีสอดคล้องกับความเห็นของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. และเชื่อว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่ทำให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยแต่อย่างใด