นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ออกโรงเตือนถึงภัยคุกคามของอัตราเงินเฟ้อเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) และชี้ว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเกินความคาดหมายของตลาดและคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาดการณ์กันไว้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของนางดาลีมีขึ้นแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะลดลงจากระดับสูงสุด 7% ในช่วงกลางปี 2565 สู่ระดับ 5.4% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และมีขึ้นในช่วงเวลาที่เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว โดยนางดาลีเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นในเดือนม.ค. "ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตัมการผ่อนคลายภาวะเงินเฟ้อที่เราต้องการนั้นยังไม่มีความแน่นอนเลย"
นางดาลีกล่าวในการประชุมสัมมนานโยบายเศรษฐกิจที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันว่า "น่าจะ" ต้องมีการบังคับใช้นโยบายการเงินที่รัดกุมต่อไปเป็นระยะเวลานานเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อสูงของสหรัฐ
มุมมองของนางดาลีซึ่งมักจะสอดคล้องกับคณะกรรมการเฟดบ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายของเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 5.1% เทรดเดอร์บางรายถึงกับเดิมพันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนมี.ค.นี้ มากกว่าจะเป็นการปรับขึ้น 0.25% ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นอัตราที่มีแนวโน้มมากที่สุด
ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดการเปิดเผยประมาณการใหม่สำหรับนโยบายและเศรษฐกิจหลังเสร็จสิ้นการประชุมของวันที่ 21-22 มี.ค.นี้
นางดาลีเตือนว่ามีแรงกดดันหลายอย่างที่อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพยายามของบริษัทต่าง ๆ ในการย้ายฐานการผลิตโรงงานจากต่างประเทศกลับสู่สหรัฐ การขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ และแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นเมื่อบริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกรวน แล้วผลักภาระต้นทุนดังกล่าวไปสู่ผู้บริโภค
นอกจากนี้ นางดาลียังเตือนว่าประชาชนอาจเริ่มคาดการณ์แล้วว่าเงินจะเฟ้อยิ่งขึ้นไปอีก และผู้กำหนดนโยบายต้องตอบสนองต่อเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาไปแบบเรียลไทม์และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต