นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ว่า เขารู้สึกเสียใจที่การดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง 10 ปีของเขา ไม่สามารถทำให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% พร้อมกับกล่าวว่า BOJ ควรจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อกระตุ้นค่าจ้างในตลาดแรงงานให้เติบโตขึ้นในอนาคต
การประชุม BOJ ในวันนี้เป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของนายคุโรดะในฐานะผู้ว่าการ BOJ โดยนายคุโรดะจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 8 เม.ย.นี้ และจากนั้นนายคาซูโอะ อุเอดะ จะเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ คนใหม่ หลังได้รับการรับรองจากรัฐสภาญี่ปุ่นเต็มคณะ
ทั้งนี้ นายคุโรดะกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะได้ประโยชน์จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ BOJ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบข้างเคียง แต่เขามองว่า ภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นหรือภาวะที่ราคาและค่าจ้างไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ได้ฝังรากลึกเป็นเวลานานมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
นายคุโรดะได้แสดงความหวังว่า นายอุเอดะซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ ต่อจากเขานั้น จะให้แนวทางนโยบายการเงินที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน
"อุเอดะเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความสามารถมาก เขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบายการเงิน ผมมีความเชื่อมั่นว่าเขาทำได้ ผมคาดหวังว่าเขาจะกำหนดแนวทางนโยบายการเงินอย่างเหมาะสม บนพื้นฐานของการประเมินภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และภาวะทางการเงินแบบเรียลไทม์ เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ" นายคุโรดะกล่าว
สำหรับการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control program)
นอกจากนี้ BOJ ยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีโดยไม่จำกัดจำนวน เพื่อปกป้องเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเอาไว้ที่ระดับ 0.5%