คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2550
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกันนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565
อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่แสดงความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารสหรัฐ
"ระบบธนาคารสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง และมีความยืดหยุ่น โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความตึงตัวด้านสินเชื่อต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน และกระทบต่อกิจกรรมในเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้มีความไม่แน่นอน ขณะที่เฟดจะยังคงจับตาความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ" แถลงการณ์ระบุ