นายโธมัส บาร์กิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่เฟดยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมาก ขณะที่เงินเฟ้อจากภาคบริการและค่าเช่ายังคงอยู่ในระดับสูง
"ถ้าคุณต้องการให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับ 2% ผมคิดว่าเรายังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายดังกล่าว" นายบาร์กินกล่าวในรายการ "Squawk on the Street" ของสถานี CNBC
ถ้อยแถลงของนายบาร์กินสอดคล้องกับนายวิคเตอร์ แกสปาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการคลังของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งกล่าวว่า ดัชนี CPI ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐบ่งชี้ถึงแรงกดดันของเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวสูงกว่าเป้าหมาย และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ IMF เน้นย้ำความสำคัญในการเดินหน้าต่อสู้กับเงินเฟ้อในการประชุมร่วมกับธนาคารโลกในสัปดาห์นี้
นายแกสปาร์กล่าวว่า การใช้นโยบายคุมเข้มทางการคลังจะช่วยลดแรงกดดันในช่วงขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยโดยการลดอุปสงค์ทางการคลัง
นอกจากนี้ นายแกสปาร์ระบุว่า เขามองว่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะเกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในวงกว้างในช่วงหลายปีข้างหน้า
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้
ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% และชะลอตัวจากระดับ 0.4% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.5% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 0.5% ในเดือนก.พ.