สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3.50% สู่ระดับ 12% ในวันนี้ (15 ส.ค.)
เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ค่าเงินรูเบิลร่วงทะลุ 100 รูเบิลต่อดอลลาร์ โดยมีสาเหตุจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าของชาติตะวันตก ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการทำสงครามกับยูเครนที่พุ่งสูงขึ้น
หลังมีมติดังกล่าว เงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นก่อนจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 98.03 รูเบิลต่อดอลลาร์ ณ เวลา 15.29 น. ตามเวลาไทย อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวถือว่าแข็งค่ากว่าเมื่อวานมาก โดยค่าเงินรูเบิลเมื่อวานอยู่แถวระดับ 102 รูเบิลต่อดอลลาร์
ธนาคารกลางรัสเซียออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า "แรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังก่อตัวขึ้น มติครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพของราคา"
"การเสื่อมค่าของเงินรูเบิลกำลังส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ามากขึ้น และความคาดหมายว่าจะเกิดเงินเฟ้อก็เพิ่มสูงขึ้น"
การประชุมด่วนของธนาคารกลางรัสเซียมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายมักซิม โอเรชกิน ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เขียนบทความพิเศษให้กับสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย โดยวิจารณ์ว่า สาเหตุที่เงินรูเบิลอ่อนค่าหนักเป็นเพราะนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางรัสเซีย
คำวิจารณ์ออกสื่อดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงกดดันเป็นพิเศษต่อนางเอลวิรา นาบิอูลลินา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมี.ค. ปี 2567 ขณะที่ประชาชนทั่วไปกำลังประสบปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น
ด้านนายมิคาอิล วาซิลเลฟ หัวหน้านักวิเคราะห์จากโซฟคอมแบงก์ (Sovcombank) ระบุว่า ธนาคารกลางรัสเซียเลิกให้สัญญาณว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก นี่อาจตีความได้ว่าอัตราดอกเบี้ยมาถึงจุดสูงสุดแล้ว
"เราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงระดับที่ 12% ในตอนนี้ไปจนถึงสิ้นปี ส่วนวงจรการปรับลดดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะเริ่มขึ้นในปีหน้าเป็นอย่างเร็ว ซึ่งเป็นช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว" นายวาซิลเลฟกล่าว