ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ (20 ส.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่จากบริษัท ไชน่า ไลฟ์ อินชัวร์รันซ์ จำกัด และตลาดหลักทรัพย์จีนก็เข้าร่วมการประชุมเดียวกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) โดยทางการจีนได้หารือเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ร่วมกับภาคการเงินในการป้องกันและลดความเสี่ยงด้านหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
ธนาคารกลางจีนแถลงว่า หน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันการเงินจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น และต้องจับตาดูความเสี่ยงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
แถลงการณ์ระบุว่า จีนต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเชิงระบบอย่างเด็ดขาด โดยธนาคารกลางย้ำว่าทางการจะปรับนโยบายสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม
อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.15% สู่ระดับ 2.50% ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (reverse repurchase rate) ระยะ 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 1.8%
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางจีนยังสะท้อนให้เห็นว่า จีนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงของเยาวชน การปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนในเดือนก.ค. ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญภาวะเงินฝืด
ทางการจีนได้ส่งสัญญาณถึงความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่คันทรี การ์เดน (Country Garden) บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนกำลังเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และยอดขายบ้านยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ความเสี่ยงยังลุกลามไปยังภาคการเงินอีกด้วย โดยบริษัทจงหรง อินเตอร์เนชั่นแนล ทรัสต์ (Zhongrong International Trust Co.) หนึ่งในธนาคารเงา (shadow bank) รายใหญ่ที่สุดของจีนซึ่งมีการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์จีน ไม่ได้จ่ายเงินให้กับนักลงทุนสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนหลายสิบรายการ