นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นในรัฐคลีฟแลนด์ในวันจันทร์ (2 ต.ค.) ว่า เฟดอาจจะยังไม่สามารถยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ในขณะนี้
"ดิฉันมองว่า เฟดยังจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) อีก 1 ครั้งในปีนี้ และคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่เรากำลังรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และประเมินผลกระทบที่เกิดจากการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน"
"แต่ประเด็นที่ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจำเป็นต้องถูกปรับให้สูงขึ้นจากระดับปัจจุบันหรือไม่ และควรจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเป็นเวลานานเท่าใดนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจมีพัฒนาการอย่างไร" นางเมสเตอร์กล่าว
ทั้งนี้ นางเมสเตอร์ระบุว่า เงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับ "สูงเกินไป" พร้อมกับกล่าวว่า แม้มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงในขณะที่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจกลับมาอยู่ในภาวะสมดุลมากขึ้น แต่คาดว่าเงินเฟ้อยังคงมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก
"เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นฤดูร้อนปีนี้ และเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ดี ส่วนภาวะในตลาดแรงงานก็ยังคงแข็งแกร่ง แต่ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์ด้านแรงงานและปริมาณแรงงานในตลาดนั้นเริ่มลดน้อยลง และบริษัทต่าง ๆ ก็สามารถหาพนักงานที่ต้องการได้ง่ายขึ้นด้วย" นางเมสเตอร์กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางเมสเตอร์ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่คณะกรรมการเฟดจัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา และมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้