ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ (6 ต.ค.) ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกัน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาแผนการบริหารจัดการสภาพคล่องของ RBI อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
นายชัคติคานตา ดาส ผู้ว่าการ RBI กล่าวว่า "หลังจากได้ทำการประเมินพัฒนาการด้านการเงินและเศรษฐกิจมหภาคโดยละเอียดแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ RBI มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 6.5%"
ขณะเดียวกันนายดาสคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในภาคค้าปลีกจะอยู่ที่ระดับ 5.4% ในช่วงปี 2566-2567 โดยในไตรมาส 2 เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 6.4%, ไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 5.6% และไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 5.2%
"ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของราคามะเขือเทศและผักประเภทอื่น ๆ และเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือนส.ค. และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอีกในเดือนก.ย. เนื่องจากราคาสินค้าเหล่านี้มีการปรับตัวในระดับปานกลาง" นายดาสกล่าว
นอกจากนี้ นายดาสกล่าวว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลงเนื่องจากผลกระทบของภาวะการเงินที่ตึงตัว และความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่การค้าทั่วโลกกำลังถดถอยลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อในประเทศขนาดใหญ่นั้นแม้ว่าเริ่มชะลอตัวลง แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมาย