นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (1 พ.ย.) โดยนายพาวเวลส่งสัญญาณว่า ขณะนี้เฟดอาจใกล้ยุติวงจรการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบ 40 ปี หลังจากที่คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งติดต่อกัน
"สำหรับคำถามที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่? ผมมองว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า หากเฟดจำเป็นจะต้องดำเนินการในวันข้างหน้า"
"เฟดจะทำการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเป็นครั้ง ๆ ไป และจะยังคงพิจารณาจากข้อมูลหลายด้าน ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงานสองรายการและตัวเลขเงินเฟ้อสองรายการ นอกจากนี้ เฟดจะพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะการเงิน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ก่อนการประชุมเดือนธ.ค. โดยผมและกรรมการเฟดคนอื่น ๆ จะจับตาสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เพื่อประเมินว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าว
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพาวเวลหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ "Dot Plot" โดยกล่าวเพียงว่า Dot Plot เป็นเพียงการคาดการณ์ส่วนตัวของกรรมการเฟดแต่ละคนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า การฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงนั้น จำเป็นต้องทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่การดำเนินการดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน
ส่วนในเรื่องของแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น นายพาวเวลย้ำว่า เฟดยังไม่ได้เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะยังไม่พิจารณาเรื่องนี้จนกว่าเฟดจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี เฟดยอมรับว่าภาวะการเงินที่มีความตึงตัวมากขึ้นนั้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากบริษัทสปาร์ตัน แคปิตอล ซิเคียวริตีส์ แสดงความเห็นว่า แถลงการณ์ของคณะกรรมการเฟดและนายพาวเวลสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของการไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย (Dovish Outlook) นอกจากนี้ การที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 2 ครั้ง นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็หมายความว่าภารกิจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ยุติลงแล้ว