ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน แต่ RBA ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่เพื่อฉุดเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมาย โดย RBA ระบุว่า ข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า เงินเฟ้อมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในระดับสูงต่อไปเป็นเวลานานขึ้น
นางมิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการ RBA ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า "การที่ RBA จะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราจะได้รับในวันข้างหน้าและการประเมินความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ"
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า คณะกรรมการ RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 1.2% ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.1% และเพิ่มขึ้นหลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาส 2/2566