ธนาคารกลางมาเลเซียเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันนี้ (17 พ.ย.) ว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียขยายตัว 3.3% ในไตรมาส 3/2566 (ก.ค.-ก.ย.) เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยถือเป็นอีกไตรมาสที่เศรษฐกิจมาเลเซียเติบโตอย่างอ่อนแอ เนื่องจากถูกกดดันจากการส่งออกที่ซบเซา
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเติบโต 3.0% โดยเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอจากต่างประเทศ
รายงานระบุว่า การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวขึ้น 4.6% ขณะที่การส่งออกลดลง 12% ในไตรมาส 3/2566
ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของมาเลเซียขยายตัว 5.6% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดและอยู่ในกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวมากที่สุดในเอเชีย แต่เศรษฐกิจโตชะลอตัวลงในไตรมาส 2/2566 โดยขยายตัวเพียงแค่ 2.9%
ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2566 ตอกย้ำถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลก โดยภาคการผลิตมาเลเซียหดตัว 0.1% เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกสินค้าที่สำคัญของมาเลเซียอ่อนแอลง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี รวมถึงผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก
ส่วนภาคบริการขยายตัว 5%, ภาคก่อสร้างขยายตัว 7.2% และภาคเกษตรกรรมขยายตัว 0.8%
ธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะขยายตัวระหว่าง 4%-5% ในปี 2566 เทียบกับ 8.7% ในปี 2565 ขณะที่ในเดือนต.ค. ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์เป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียสู่ระดับ 3.9% จาก 4.3% สำหรับปี 2566 โดยให้เหตุผลว่าอุปสงค์จากต่างประเทศชะลอตัวลง