นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ (19 ธ.ค.) ระบุว่า ความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะเคลื่อนตัวสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนนั้น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น และ BOJ จำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินว่าค่าจ้างและการจ่ายค่าตอบแทนยังคงอยู่ในวงจรขาขึ้นหรือไม่
นายอุเอดะกล่าวว่า ขณะนี้ BOJ ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า BOJ จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้แน่นอนหรือไม่ หลังจากที่ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ (ultralow interest rates) ในการประชุมวันนี้
นายอุเอดะยังกล่าวด้วยว่า BOJ ไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมประกาศจับตาตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจับตาผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจและราคา
ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และยังคงให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0%
นอกจากนี้ BOJ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) จากการประชุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค. โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% และให้ระดับดังกล่าวเป็นระดับอ้างอิง หรือ"reference point" เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสามารถปรับตัวขึ้นได้อีก และเพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ที่ประชุม BOJ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2% ตลอดปีงบประมาณ 2567 พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวเล็กน้อย ขณะที่การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ ที่ประชุม BOJ ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ ที่เป็นการบ่งชี้ว่าจะยกเลิกการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในปีหน้า ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 143.78 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับประมาณ 142.64 เยนต่อดอลลาร์ก่อน BOJ แถลงผลการประชุม