ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า BOJ จะยังไม่ยกเลิกการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งรวมถึงการเจรจาเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้าง
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการหลายคนของ BOJ กล่าวว่า การถอนนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และ YCC นั้น จะพิจารณาในการประชุมแต่ละครั้งไป และจะพิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลหลากหลายที่ BOJ ได้รับในแต่ละช่วงเวลา
"กรรมการบางคนกล่าวว่า BOJ มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้หลังจากสิ้นสุดการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และ YCC แล้วก็ตาม ขณะที่กรรมการบางส่วนได้แสดงมุมมองว่า BOJ ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องยุติการใช้นโยบาย YCC หาก BOJ ไม่ได้รีบร้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" รายงานการประชุมระบุ
นอกจากนี้ กรรมการ BOJ ยังกล่าวว่า แม้ว่า BOJ จะทำการตัดสินใจเมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผลการเจรจาด้านค่าจ้างในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2567 นั้น ก็จะไม่เป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป
นักลงทุนในตลาดการเงินกำลังจับตาการเจรจาค่าจ้างประจำปี หรือที่เรียกว่า "ชุนโต (Shunto)" ระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ BOJ เป็นธนาคารกลางรายสุดท้ายที่ยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยผลการเจรจาเบื้องต้นจากสหภาพการค้าของญี่ปุ่น (Rengo) จะมีการประกาศในวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการประชุม BOJ ในเดือนดังกล่าว
ส่วนในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% และคงให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0%
นอกจากนี้ BOJ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) จากการประชุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค. โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% และให้ระดับดังกล่าวเป็นระดับอ้างอิง หรือ"reference point" เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสามารถปรับตัวขึ้นได้อีก และเพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น