นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์
"เราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเรามีแนวโน้มอยู่ที่ระดับสูงสุดสำหรับวงจรปัจจุบันแล้ว และหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เราคาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายในปีนี้" นายพาวเวลกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"ในการพิจารณาปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เราจะทำการประเมินอย่างระมัดระวังต่อข้อมูลที่ได้รับ รวมทั้งแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป และการรักษาสมดุลของความเสี่ยง โดยคณะกรรมการเฟดมองว่ายังคงไม่เหมาะสมที่จะปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน"
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะทำให้เฟดมีความเสี่ยงต่อการพ่ายแพ้ในการทำสงครามกับเงินเฟ้อ ซึ่งก็จะทำให้เฟดต้องกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แต่การที่เฟดรอนานเกินไปก็มีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นายพาวเวลเผชิญแรงกดดันจากสมาชิกสภาคองเกรสที่ต้องการให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะจากนางเอลิซาเบท วอร์เรน วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งถือเป็นคู่ปรับของนายพาวเวล โดยนางวอร์เรนเคยเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อย และทั้งสองจะเผชิญหน้ากันในวันพรุ่งนี้ขณะที่นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์พร้อมตอบข้อซักถามจากคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้งในปีนี้