สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (12 มี.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ โดยเจ้าหน้าที่ BOJ จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการประชุมนโยบายสัปดาห์หน้า โดยผลลัพธ์ในขณะนี้ยังคาดเดาได้ยาก และจะขึ้นอยู่กับผลเบื้องต้นจากการเจรจาค่าจ้างในฤดูใบไม้ผลิที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ (15 มี.ค.)
แหล่งข่าวระบุว่า ผลการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งอาจผลักดันให้ BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่บางคนมองว่า BOJ ควรรอจนถึงเดือนเม.ย.เพื่อประเมินข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมสำหรับทั้งการปรับขึ้นและการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค.นี้
หากมติในที่ประชุมออกมาสูสีกัน นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ อาจเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย โดยฉันทามติในที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะอิงตามมุมมองของนายอุเอดะ ในกรณีที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาว่า ควรจะส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้จะเกิดขึ้นแล้วดีหรือไม่ เพื่อจัดการกับความคาดหวังของตลาดและจำกัดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
ในขณะที่เกิดกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและรายงานของสื่อต่าง ๆ แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจของบลูมเบิร์กยังคงคาดว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.
อนึ่ง สมาพันธ์สหภาพการค้าของญี่ปุ่นหรือเรนโก (Rengo) ระบุว่า สหภาพแรงงานหลายแห่งได้เรียกร้องการปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 5.85% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 4.49% ในปีที่แล้ว หากตัวเลขในวันที่ 15 มี.ค.นี้ออกมาสูงกว่าตัวเลขการปรับขึ้นค่าจ้างเบื้องต้น 3.8% ในปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ BOJ อาจประเมินความแข็งแกร่งของการเติบโตของค่าจ้างในธุรกิจขนาดเล็กด้วย แม้ว่ารายงานจะสะท้อนผลลัพธ์จากบริษัทขนาดใหญ่เป็นหลักก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางคนเชื่อว่า ผลเจรจาเบื้องต้นของเรนโกเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะยืนยันแนวโน้มค่าจ้างโดยรวม และ BOJ ควรประเมินข้อมูลเพิ่มเติมที่จะมีเผยแพร่ไปจนถึงช่วงการประชุมในวันที่ 25-26 เม.ย.
แหล่งข่าวบางรายกล่าวว่า หาก BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. BOJ อาจถูกมองว่าคุมเข้มด้านการเงินมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่กระแสคาดเดาโดยไม่จำเป็นว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีกหรือไม่