นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/67
นายบอสติกกล่าวว่า ประสิทธิภาพการผลิตที่แข็งแกร่ง และการดีดตัวขึ้นของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงช้ากว่าที่มีการคาดการณ์ไว้
"หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่ผมคาดไว้ ซึ่งก็คือ สหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานต่ำ และเงินเฟ้อปรับตัวลงอย่างล่าช้าตลอดทั้งปี ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งก็คือในไตรมาส 4" นายบอสติกกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสถานีข่าว CNBC
อย่างไรก็ดี ความเห็นของนายบอสติกสวนทางการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเฟดเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.2566