นางเอเดรียนา คุกเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) โดยแสดงความเห็นว่า เงินเฟ้อสหรัฐจะลดลงอีกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นางคุกเลอร์กล่าวว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอลงจะช่วยให้การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่าในปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัว 3.1% และความต้องการแรงงานก็กำลังชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน
"การที่อุปสงค์ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเมื่อพิจารณาจากอุปทานที่แข็งแกร่งนั้น การคาดการณ์พื้นฐานของดิฉันก็คือ เงินเฟ้อของสหรัฐจะลดลงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้น หากเงินเฟ้อชะลอตัวลงและภาวะในตลาดแรงงานเป็นไปตามที่ดิฉันคาดการณ์ในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้" นางคุกเลอร์กล่าว
อย่างไรก็ดี นางคุกเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเธอมองว่าตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างมีนัยสำคัญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดต่างก็จับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด โดยมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ในเดือนมี.ค. เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟด 10 รายคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟด 9 รายคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งหรือน้อยกว่านั้น