นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิสส่งสัญญาณว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลงตามที่เฟดคาดหวังไว้
"ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ซึ่งมีการเผยแพร่หลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) เมื่อวันที่ 20 มี.ค.นั้น ผมเป็นหนึ่งในกรรมการเฟดที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในทิศทางที่จะกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แต่ขณะนี้ผมมองว่าหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้" นายแคชคารีกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทเพนชันส์ แอนด์ อิสเวสเมนท์ เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.)
นายแคชคารีกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.และก.พ.ของสหรัฐยังคงค่อนข้างสูงและสร้างความกังวล ซึ่งเขาสนับสนุนให้เฟดใช้เวลามากขึ้นในการรอคอยให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ก่อนที่จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนในรายงาน Dot Plot ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟด 10 รายคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟด 9 รายคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งหรือน้อยกว่านั้น
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3 เม.ย.) ว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2567 พร้อมกับกล่าวว่าประสิทธิภาพการผลิตที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงช้ากว่าที่มีการคาดการณ์ไว้