นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นเดือนก.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าการคาดการณ์
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 41.2% เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 58.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 22.4% เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้น้ำหนัก 46.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 30.4% เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้
"ข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เงินเฟ้อยังไม่มีความคืบหน้าในการปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเราที่ระดับ 2% ซึ่งข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น แต่กลับบ่งชี้ว่า กว่าที่เงินเฟ้อจะไปถึงจุดที่จะทำให้เรามั่นใจนั้น อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น"
"ด้วยเหตุนี้ เราจึงคิดว่านโยบายการเงินควรจะอยู่ในระดับที่คุมเข้มต่อไปเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เรากำลังเผชิญอยู่" นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้