นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า นโยบายการเงินของเฟดยังคงอยู่ในสถานะที่ดี และเฟดไม่ควรรีบเร่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นางเมสเตอร์กล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่ย่านแชกรินฟอลส์ รัฐโอไฮโอเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ว่า เธอยังคงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่เธอต้องการที่จะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และยังกล่าวด้วยว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานอาจทำให้เฟดสามารถอดทนรอคอยในการดำเนินนโยบายการเงิน
"ดิฉันยังคงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่ดิฉันคิดว่าเราควรจะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินในขั้นตอนต่อไป" นางเมสเตอร์กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางเมสเตอร์เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ที่มีสิทธิ์ออกเสียงในปีนี้ แต่เธอจะเกษียณจากตำแหน่งในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ปีนี้
ทางด้านนางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวเมื่อวานนี้เช่นกันว่า ความคืบหน้าด้านเงินเฟ้อชะลอลงและมีความเป็นไปได้ที่จะชะงักงัน พร้อมกับกล่าวว่า นโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันถือเป็นระดับที่คุมเข้ม ส่วนการที่เฟดจะดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปหรือไม่นั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
"ดิฉันมองว่าความคืบหน้าด้านเงินเฟ้อล่าช้าและอาจจะชะงักงัน ส่วนความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายของผู้บริโภคนั้น เป็นผลมาจากการจ้างงานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยแม้ว่าผู้บริโภคกำลังหันไปซื้อสินค้าราคาที่ถูกลง แต่ก็ยังคงมีการใช้จ่ายมากขึ้นโดยเฉพาะการใช้จ่ายในการเดินทางไปชมสุริยุปราคาในสถานที่ต่าง ๆ ของสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้"
การแสดงความเห็นของนางเมสเตอร์และนางโบว์แมน สอดคล้องกับที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณครั้งล่าสุดในเวทีการเสวนาที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 เม.ย.) ว่า เฟดอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสูงกว่าการคาดการณ์