นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ หลังการเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนพ.ค., มิ.ย., ก.ค., ก.ย. และพ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 42.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนแรงงานที่กว้างที่สุด เพิ่มขึ้น 1.2% ในไตรมาส 1/67 เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในไตรมาส 4/66
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี ECI พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 4.2% เช่นกันในไตรมาส 4/66
การดีดตัวของดัชนี ECI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 1.1% ของค่าจ้างและเงินเดือน เมื่อเทียบรายไตรมาส
เมื่อเทียบรายปี ค่าจ้างและเงินเดือนเพิ่มขึ้น 4.4% ในไตรมาส 1/67
ทั้งนี้ ดัชนี ECI ถือเป็นมาตรวัดที่น่าเชื่อถือในการชี้วัดตลาดแรงงาน และเป็นดัชนีคาดการณ์ที่ดีสำหรับอัตราเงินเฟ้อซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ