ผู้ว่า BoE ยังไม่ฟันธงหั่นดอกเบี้ยเดือนมิ.ย. ชี้ต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 9, 2024 19:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) จำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลที่ได้รับเพื่อประเมินความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย

"การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การประชุมทุกครั้งถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหม่ เราจำเป็นต้องเห็นหลักฐานมากขึ้นที่แสดงว่าเงินเฟ้อจะทรงตัวในระดับต่ำ ก่อนที่เราจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ย และผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆ กำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง" นายเบลีย์กล่าว

ทางด้าน MPC ออกแถลงการณ์ระบุว่า สิ่งบ่งชี้ต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเงินเฟ้อภาคบริการอยู่ที่ระดับ 6% ในเดือนมี.ค. และยังคงมีความเสี่ยงในช่วงขาขึ้นต่อแนวโน้มในระยะใกล้ของปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่ง MPC จะจับตาข้อมูลต่างๆ อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ MPC มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

กรรมการ MPC จำนวน 7 รายลงมติให้ BoE คงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% ในการประชุมวันนี้ ขณะที่อีก 2 รายมีมติให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00%

การที่กรรมการ MPC เสียงแตกลงมติให้คงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ ขณะที่กรรมการ 2 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนคาดว่า BoE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งหากเป็นไปตามคาด BoE ก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE กล่าวก่อนหน้านี้ว่า BoE ไม่มีความจำเป็นต้องรอให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของอังกฤษมีความแตกต่างจากสหรัฐ

การตัดสินใจของ BoE ในวันนี้ ถือเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 14 ครั้ง

BoE ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 จนถึงเดือนส.ค.2566 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.1% สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ