ธนาคารกลางอิสราเอลประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกันในการประชุม 3 ครั้ง พร้อมกับส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกหากเศรษฐกิจของประเทศยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอิสราเอลมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.5% ในการประชุมเมื่อวันจันทร์ (27 พ.ค.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยธนาคารกลางระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ขณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงไม่แน่นอนซึ่งเป็นผลมาจากการทำสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอิสราเอลได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปี หลังจากเงินเฟ้อในเวลานั้นได้ชะลอตัวลงและเศรษฐกิจถูกกระทบจากสงคราม แต่ธนาคารกลางได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวในเดือนก.พ.และเดือนเม.ย.
นายอามีร์ ยารอน ผู้ว่าการธนาคารกลางอิสราเอลกล่าวภายหลังการประชุมว่า "เป็นเรื่องยากที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก ตราบใดที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงสูง, สงครามยังคงไม่แน่นอน และการใช้จ่ายของรัฐบาลยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยชี้วัดทั้งหมดนี้ทำให้ธนาคารกลางเผชิญกับความยากลำบากในการปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่ปกติ และหากธนาคารกลางเริ่มพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้า เราก็จะดำเนินการอย่างรอบคอบและระมัดระวัง"