นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เขามองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 ครั้งในปีนี้ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมเมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์ในปัจจุบันของเขา พร้อมกับกล่าวว่า เขาต้องการเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวลงเป็นเวลาอีกหลายเดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายฮาร์เกอร์แสดงความเห็นดังกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟียเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) โดยกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.นั้น ถือเป็นข้อมูลที่น่ายินดี แต่กรรมการเฟดต้องการเห็นหลักฐานมากขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
"สำหรับผมแล้ว เราควรดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวัง หากเราเริ่มเห็นว่าข้อมูลเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางที่ถูกต้องเป็นเวลานานหลายเดือน เราก็จะเริ่มดำเนินการ แต่ผมมองว่าเรายังไปไม่ถึงจุดนั้นในขณะนี้" นายฮาร์เกอร์กล่าว
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ตามคาด แต่ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ นายฮาร์เกอร์กล่าวว่า การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเขานั้นสอดคล้องกับรายงาน Dot Plot และขณะนี้เขาคาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงแต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าแนวโน้มของเฟด และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
"หากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ ผมก็คิดว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 ครั้งในปีนี้ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ในขณะเดียวกันผมก็มองว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งหรืออาจจะไม่ปรับลดเลยในปีนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจเป็นไปในทางตรงกันข้าม ดังนั้นผมจึงขอย้ำว่า การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ" นายฮาร์เกอร์กล่าว