ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ที่ 5.25% ในวันนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ขาดแรงหนุนก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.ค.นี้
นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ได้พูดเปิดช่องไว้เมื่อเดือนที่แล้วสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าเขารู้สึก "มองโลกในแง่ดีว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง" และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) จะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพ.ค.ลดลงสู่เป้าหมาย 2% ของ BoE เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าอังกฤษบรรลุเป้าหมายเร็วกว่าสหรัฐหรือยูโรโซน แต่แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะปานกลางในขณะนี้ยังไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก
เงินเฟ้อภาคบริการ ซึ่ง BoE ใช้เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะกลาง อยู่ที่ 5.7% ในเดือนพ.ค. ลดลงน้อยกว่าที่ BoE คาดการณ์ไว้ในช่วงการประชุมครั้งล่าสุดที่ 5.3% และค่าจ้างในภาคเอกชนมีการเติบโตเกือบ 2 เท่าของอัตราที่ BoE ประเมินว่าสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่ 2%
เมื่อเดือนที่แล้ว BoE คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.6% ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในครัวเรือนที่รัฐบาลควบคุมจะค่อย ๆ หายไป
นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 65 คนในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่มีใครคาดว่า BoE จะดำเนินรอยตามธนาคารกลางยุโรป (ECB) และปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยวันที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ BoE จะเริ่มลดดอกเบี้ยคือ 1 ส.ค.
ส่วนผลการประชุมในวันนี้คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยด้วยคะแนนเสียง 7-2 ซ้ำรอยกับเดือนพ.ค. ซึ่งนายเดฟ แรมส์เดน รองผู้ว่าการ BoE และสวาติ ธิงกรา สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินจากภายนอก เป็นเพียง 2 คนที่ลงคะแนนเสียงให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
วิกตอเรีย คลาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อังกฤษจากซานทานแดร์ กล่าวว่า "เราคิดว่าธนาคารกลางอังกฤษกำลังรอข้อมูลที่ช่วยให้มั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการชะลอตัวของ CPI ภาคบริการ หรือสัญญาณอื่น ๆ ทั้งหมด ที่บ่งชี้ถึงทิศทางเงินเฟ้อที่อ่อนลง"
แม้ว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ที่ 4.4% แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับมาตรฐานที่อ่อนแอของอังกฤษ
ด้านตลาดการเงินยังคงคลางแคลงใจว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนส.ค.จริงหรือไม่ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตลาดประเมินโอกาสหั่นดอกเบี้ยเดือนส.ค.ไว้ที่ 30% โดย BoE มีแนวโน้มที่จะปรับลดในเดือนก.ย.มากกว่า และมีความเสี่ยงที่จะล่าช้าออกไปจนถึงเดือนพ.ย. ซึ่งคล้ายกับการคาดการณ์ที่มีต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน การปรับลดดอกเบี้ยใด ๆ ก็ตามมีแนวโน้มว่าจะสายเกินไปเสียแล้วสำหรับนายซูนัค เนื่องจากพรรคอนุรักษนิยมของเขามีคะแนนตามหลังพรรคแรงงานจากฝ่ายค้านอยู่ประมาณ 20 จุด ในการสำรวจความคิดเห็นก่อนการเลือกตั้ง
ในขณะที่นายซูนัคพยายามเคลมผลงานจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงนับตั้งแต่ที่เขารับตำแหน่งในเดือนต.ค. 2565 ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% แต่พรรคแรงงานกล่าวโทษอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านที่สูงว่าเป็นผลพวงจากความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของนางลิซ ทรัสส์ อดีตผู้นำพรรคอนุรักษนิยม
อนึ่ง นับตั้งแต่เริ่มต้นการหาเสียงเลือกตั้ง ทาง BoE ก็พยายามเก็บตัวเงียบโดยได้ยกเลิกงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องปรากฏตัวในที่สาธารณะ