ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในวันนี้ (21 ส.ค.) ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยทาง BI เลือกที่จะมุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ก่อนที่จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
BI ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ย reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน) ไว้ที่ 6.25% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้มาตั้งแต่เดือนเม.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 30 คนในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์
นอกจากนี้ BI ยังคงอัตราดอกเบี้ยสำหรับธุรกรรมระยะข้ามคืนไว้เช่นเดิม โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนอยู่ที่ 5.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนอยู่ที่ 7%
นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการ BI แถลงต่อสื่อมวลชนว่า BI ยังคงเห็นช่องทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับไตรมาสปัจจุบัน BI จะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนให้ค่าเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
"เงินรูเปียห์ที่แข็งค่าส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซีย เมื่อเงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้น จะทำให้ราคาสินค้าโดยรวมถูกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากต้นทุนสินค้านำเข้าจะลดลงด้วย" นายวาร์จิโยกล่าว
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอินโดนีเซียอยู่ในกรอบเป้าหมายของ BI ที่ 1.5%-3.5% มาตั้งแต่กลางปี 2566 และล่าสุดในเดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงเหลือ 2.13% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา BI สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินรูเปียห์ ซึ่งได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
สาเหตุที่เงินรูเปียห์อ่อนค่าก่อนหน้านี้มาจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เกิดการไหลออกของเงินทุนจากอินโดนีเซีย
ในเดือนนี้ เงินรูเปียห์แข็งค่าขึ้นประมาณ 5% และมีการซื้อขายใกล้ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดของปีนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง อันเป็นผลมาจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
นายวาร์จิโยกล่าวว่า การคาดการณ์พื้นฐานของ BI คือ เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และอีก 3 ครั้งในปี 2568
นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดการณ์ว่า BI จะรอให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินของตนเองตาม
นายไบรอัน ลี นักเศรษฐศาสตร์จากกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนเมย์แบงก์ (Maybank Investment Banking Group) ให้ความเห็นว่า "เรายังคงมองว่า BI จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในไตรมาสที่ 4 หลังจากที่เฟดได้หั่นดอกเบี้ยแล้ว"
"เนื่องจาก BI ให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ เราจึงคิดว่าในขณะนี้ BI จะพยายามป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ"
ในวันนี้ เงินรูเปียห์ซื้อขายกันอยู่ที่ 15,480 รูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับวันอังคาร (20 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันที่รูเปียห์แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้
อนึ่ง ธนาคารกลางของบางประเทศได้เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินแล้ว รวมถึงธนาคารกลางของฟิลิปปินส์และนิวซีแลนด์ ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ในวันนี้