นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ขณะจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 18 ก.ย. และให้น้ำหนัก 31.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00%
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.3% ในเดือนก.ค.
มอร์แกน สแตนลีย์ สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ออกรายงานเตือนนักลงทุนให้จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ว่าการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐจะสามารถดำเนินต่อไปได้หรือไม่ หลังจากที่ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 600 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ส.ค. และทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 179,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจผิดพลาดด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป
"ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานอย่างหนักในช่วงต้นเดือนส.ค. โดยมีสาเหตุสำคัญจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนก.ค.ในวันที่ 2 ส.ค.ที่อ่อนแอเกินคาด"
"ตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนส.ค.จะมีอิทธิพลต่อทิศทางของตลาดหุ้นในอนาคต และจะเป็นบททดสอบการฟื้นตัวของตลาด"
"ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด และอัตราว่างงานที่ต่ำกว่าคาดจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้นแก่นักลงทุนว่าความเสี่ยงต่อการขยายตัวได้ลดน้อยลง ซึ่งจะปูทางให้มูลค่าหุ้นยังคงทรงตัวในระดับสูง"
"ในทางกลับกัน หากมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแออีกครั้ง รวมทั้งมีการพุ่งขึ้นของอัตราว่างงาน สิ่งนี้ก็จะสร้างความตื่นตระหนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และจะส่งแรงกกดดันครั้งใหม่ต่อมูลค่าหุ้นในตลาด" รายงานระบุ