อัดนาน เซย์ลานี โมฮัมหมัด ซาฮิด รองผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจมาเลเซียฟื้นตัวและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศอยู่ในระดับที่ควบคุมได้นั้น จะช่วยเปิดทางให้ธนาคารกลางมาเลเซียสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกจะพากันใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินก็ตาม
อัดนานให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 5% ในปี 2567 และอัตราเงินเฟ้อจะไม่สูงกว่า 3% ซึ่งอยู่ในกรอบการคาดการณ์อย่างเป็นทางการที่ธนาคารกลางมาเลเซียได้กำหนดไว้เมื่อช่วงต้นปีนี้
"ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลหรือแรงกดดันใด ๆ ที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่เรายังต้องเปิดกว้างสำหรับการพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต" อัดนานกล่าว
จุดยืนที่เป็นกลางนี้ทำให้มาเลเซียแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เตรียมที่จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางมาเลเซียได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งหลังสุดในเดือนพ.ค. 2566 ก่อนที่จะยุติวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินที่ดำเนินการมานาน 1 ปี โดยธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกันทั้งสิ้น 1.25% สู่ระดับ 3%
ส่วนประเทศอื่น ๆ ในเอเชียนั้น ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีในเดือนที่แล้ว ขณะที่อินโดนีเซียและไทยได้ส่งสัญญาณเปิดกว้างสำหรับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ อัดนานกล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าของมาเลเซียยังไม่ชัดเจน เนื่องจากยังคงมีปัจจัยอีกมากมายที่จะเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อภายในประเทศหรือไม่