กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เป็นการเหมาะสมสำหรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากความเสี่ยงในช่วงขาขึ้นของเงินเฟ้อได้ลดน้อยลงแล้ว
นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจะสะท้อนในรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่จะมีการเปิดเผยในเดือนต.ค.
หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. โดยแบ่งเป็นให้น้ำหนัก 87% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนัก 13% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00%