ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันนี้ (20 ก.ย.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ และได้ปรับเพิ่มการประเมินการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเปิดทางให้ BOJ สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมในวันนี้ โดยกล่าวถึงประเด็นอัตราดอกเบี้ยว่า "การตัดสินใจของเราเกี่ยวกับนโยบายการเงินนั้น จะขึ้นอยู่กับพัฒนาการของเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการเงินในช่วงเวลานั้น ๆ ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก โดยหากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เราก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับระดับของนโยบายสนับสนุนทางการเงินให้สอดคล้องกัน"
ผู้ว่าการ BOJ กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจว่า "พัฒนาการทางเศรษฐกิจในต่างประเทศมีแนวโน้มไม่แน่นอนสูงมาก และตลาดยังคงไร้เสถียรภาพ ซึ่งเราจำเป็นต้องวิเคราะห์พัฒนาเหล่านี้อย่างระมัดระวังในขณะนี้"
ส่วนในเรื่องป้าหมายเงินเฟ้อ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า "เราจะพิจารณาอย่างระมัดระวังว่าความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจนั้นจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อของเราอย่างไร"
นอกจากนี้ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวถึงประเด็นค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน (Nominal Wages) ว่า "ค่าจ้างจะต้องปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของเรา ค่าจ้างที่แท้จริงกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีของการเจรจาด้านค่าจ้างระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และผลลัพธ์นี้ช่วยผลักดันให้รายได้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินโบนัสก็กำลังเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเราคาดว่าค่าจ้างจะปรับตัวขึ้นต่อไป"