รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (26 ก.ย.) ระบุว่า กรรมการ BOJ มีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่า BOJ ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเพียงใดในอนาคต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในวันข้างหน้า
ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 ก.ค. คณะกรรมการ BOJ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับ 0.25% และเปิดเผยแผนชะลอการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นการปูทางสู่การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ที่ BOJ ดำเนินการมาเป็นเวลานานถึง 10 ปี
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการ BOJ อย่างน้อย 2 ใน 9 รายเล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับขอบเขตในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยกรรมการรายหนึ่งกล่าวว่า BOJ ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย "อย่างค่อยเป็นค่อยไปและในเวลาที่เหมาะสม" เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกดดันให้ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในภายหลัง
ขณะที่กรรมการอีกรายหนึ่งกล่าวว่า BOJ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีข้อมูลยืนยันว่าบริษัทต่าง ๆ กำลังเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุน และค่าจ้าง
อย่างไรก็ตาม กรรมการอีกหลายรายเตือนว่ากระบวนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ควรเกิดขึ้นเร็วเกินไป โดยกล่าวว่า BOJ จะต้องจับตาความเสี่ยงในหลายด้านและดำเนินการอย่างระมัดระวัง
BOJ ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปในอนาคต เนื่องจากตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อยังไม่ได้เคลื่อนตัวแตะเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% และเงินเฟ้อยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญขาลง" กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าว