ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 23-24 ก.ย. โดยระบุว่า RBA จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อเคลื่อนตัวสู่ระดับเป้าหมายของ RBA อย่างยั่งยืน นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า RBA ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงิน
รายงานการประชุมที่เผยแพร่ในวันนี้ (8 ต.ค.) ระบุว่า กรรมการ RBA ได้หารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ที่อาจจำเป็นต้องคงนโยบายคุมเข้มด้านการเงินเป็นระยะเวลานาน และยังได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วย โดยกรรมการ RBA ได้ข้อสรุปว่าทั้งสองกรณีนี้มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้นเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และ RBA ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.35% ในการประชุมวันดังกล่าว
"กรรมการ RBA มีความเห็นตรงกันว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องสื่อสารว่า RBA ยังคงระมัดระวังความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น นอกจากนี้ กรรมการ RBA ยืนยันว่านโยบายการเงินจำเป็นจะต้องอยู่ในระดับที่คุมเข้มมากพอจนกว่ากรรมการ RBA จะมั่นใจว่าเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวสู่กรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน" รายงานการประชุมระบุ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายงานการประชุมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า RBA เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากในการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกกำลังเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ภายใต้การนำของเจอโรม พาวเวล ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า กรรมการ RBA ได้หารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก แต่ก็สรุปว่าอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวไปพร้อมกับประเทศอื่น ๆ เนื่องจากเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของออสเตรเลียมีความแข็งแกร่งมากกว่า